วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

          ประวัติพระเครื่องเบญจภาคีเนื้อดิน-ผง

            โดยชมรมพระเครื่องเบญจภาคี

               www.somdej1899.com

วันที่: 29-09-2545
 


พระชุดเบญจภาคี ประกอบด้วย



1. พระสมเด็จ วัดระฆัง ที่สร้างโดย ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต)พฺรหฺมรังษี เป็นตัว
แทนยุค รัตนโกสินทร์

2. พระซุ้มกอ หรือ กำแพงเม็ดขนุน ทุกกรุในจังหวัดกำแพงเพชรเป็นตัวแทนยุค สุโขทัย

3. พระนางพญาพิษณุโลก กรุวัดนางพญา จังหวัด พิษณุโลก เป็นตัวแทนยุค อยุธยา-พระ
พิษณุโลกสอง
แคว

4. พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตัวแทนยุค อู่ทอง-สุพรรณ

ภูมิ

5. พระรอด กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เป็นตัวแทนยุค ลพบุรี



                   รูปภาพพระเครื่องชุดเบญภาคี 




                         1.พระสมเด็จวัดระฆัง





















                        2.พระนางพญาพิษณุโลก
 












               3.พระกำแพงซุ้มกอ













4.พระผงสุพรรณ





 







                   5.พระรอดลำพูน

















        ท่านจะเห็นได้ว่าพระเครื่องชุดเบญจภาคีนั้น งามหมดจดด้วยพุทธ
ศิลป์ เปี่ยมด้วยพุทธบารมีเป็นที่น่าเกรงขาม ถ้าได้มาห้อยคอผู้ใดแม้เพียงองค์เดียว ก็เหมือน
หมุนให้ผู้นั้น มีรัศมีเรืองรองจับขึ้นมาทันที ถ้าเราจะอาราธนามาเข้าชุดในสร้อยเส้นเดียวกัน 1. 
สมเด็จวัดระฆัง อยู่ตรงกลาง 2. พระนางพญา อยู่ล่างซ้าย 3. พระซุ้ม ก. อยู่ล่างขวา 4. พระผง
สุพรรณ อยู่บนซ้าย 5.พระรอด อยู่บนขวา ดูจะสมดุลได้สัดส่วนเหมาะสมเป็นที่สุด


       คราวนี้เรามากล่าวถึงพระเบญจภาคีทีละองค์ พอได้รู้จักเอาไว้และจะคุยให้ละเอียดใน
โอกาสต่อไป



 ลำดับที่1.พระสมเด็จวัดระฆัง



















             1.พระสมเด็จวัดระฆัง สร้างโดยท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพุฒาจารย์ 
(โต) พฺรหฺม รังสี แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม เป็นพระทรงสี่เหลี่ยม ขนาดกว้างประมาณ 2.2-2.4 
ซ.ม. สูงประมาณ 3.5 ซ.ม. หนาประมาณ 0.3 - 0.4 ซ.ม. เนื้อปูนปั้น สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2410 
สันนิฐานว่าแม่พิมพ์สร้าง โดยลูกศิษย์ที่อยู่ในงานช่างสิบหมู่ซึ่งเป็นช่างหลวง และเชื่อว่า มี
หลายท่านที่แกะพิมพ์ถวายแต่ที่ปัจจุบันนิยมจะเน้นเฉพาะพิมพ์ทรงของ หลวงวิจาร เจียรนัย
 ราคาเช่าหาองค์หนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านส่วนของช่างท่านอื่นจะเล่นหาเฉพาะ กลุ่มโดยต้องดู
เนื้อประกอบราคาเช่า หาตามความพอใจ



      โดย พระสมเด็จวัดระฆัง เป็นพระที่ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ท่านสร้างเองมีไว้เพื่อแจกญาติ
โยมที่สนิท ที่ทำบุญตักบาตรตอนเช้า หรือญาติโยมที่แวะหาถูกอัธยาศัยกัน ไม่ได้ซื้อขายกัน
 ใครอยากได้ไว้บูชา ก็อาราธนาขอเอาไม่หวง พิมพ์พระเป็นรูปสี่เหลี่ยมชิ้น ฟักมีซุ้มผ่าหวาย
ทรงครอบแก้ว ภายในเป็นรูป นูนต่ำ พระปางสมาธิ เกศเรียวยาวประทับบนฐาน 3 ชั้น ไม่
ปรากฏรายละเอียดในองค์พระทำให้ดูมีเสน่ห์ ศิลปะ เรียบง่ายแต่เหมือนมีมนต์ขลัง


      เนื้อ พระเท่าที่สังเกตเป็นเนื้อปูนปั้นก็จริง แต่คาดว่าท่านทำครั้งละไม่มาก คือทำไปแจกไป
ทำให้รายละ เอียดไม่เหมือนกัน คือสูตรผสมไม่ตายตัวมีก็ใส่ขาดบ้างไม่เป็นไร ไม่สู้เคร่งครัด
แถมนู้นนิด นี่หน่อย ตามอัธยาศัยท่าน และท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ท่านยังปลุกเสกอธิฐานจิต
ด้วยคาถา "ชินบัญชร" อันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จากกรุพระโบราณ เมืองกำแพงเพชรที่สืบทอด
จากลังกา โดยการอาราธนาคุณแห่งพระพุทธจารย์ในโบราณกาลทุกพระองค์ อีกทั้งอันเชิญ 
 พระอรหันต์สาวก ผู้เป็นเอตะทักคะทรงคุณอันวิเศษ มาสถิตอยู่ในพระสมเด็จฯ ที่เจ้าพระคุณ
ปลุกเสกอธิฐานจิตเพื่อคุ้มครองอภิบาล ผู้อาราธนาพระสมเด็จพกติดตัวตังที่ เชื่อกันว่า  

     พระสมเด็จวัดระฆัง มีพุทธคุณครอบจักรวาล เน้นบุญฤทธิ์ 
 หนุนดวงชะตา เมตตามหานิยม แคล้วคลาดใครมีบารมีได้ไว้
ครอบครองจะรุ่งเรืองไม่มีวันตกต่ำ 




ลำดับที่2.พระนางพญาพิษณุโลก
























      2.พระนางพญา 
สันนิฐานว่าสร้างโดย สมเด็จพระวิสุทธิกษัตรี องค์เอกอัครมเหสี
แห่งสมเด็จ พระมหา ธรรมราชา ซึ่งเป็นพระราชมารดา ของสมเด็จพระนเรศวร ประมาณ พ.ศ.
 2100 เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เมือง พระพิษณุโลกสองแคว บรรจุกรุที่วัดนางพญา และกรุแตกครั้ง
แรกเมื่อปี 2442 ในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 โดยประมาณว่าพระในกรุมีประมาณ 84,000 องค์ ได้
แบ่งฝากกรุในกรุงเทพฯ และต่างวัดอื่นๆ อีกมาก และยังพบปะปลายในกรุอื่นๆในจังหวัด
พิษณุโลก ราคาเช่าหาไม่ใช่ถูก อย่างน้อยก็หลักแสนกลางๆ พอหาได้


        สำหรับ เนื้อพระนั้น เป็นพระเนื้อดินละเอียด ผสมว่านละเอียดหนึกนุ่ม ผสมแร่เล็กๆ ขาวใส 
สีน้ำตาลอ่อน, สีดำ,สีชมพู และแร่ว่านดอกมะขามแล้วนำไปเผา พิมพ์ทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว
ฐานแคบ ขนาดปลายนิ้วหัวแม่มือ องค์พระประทับนั่งปางมารวิชัยลอยองค์ ไม่มีฐานรองรับ แล
ดูเรียบๆ แต่เข้มขลัง


   พุทธคุณ เน้นทางอิทธิฤทธิ์แกร่งกล้า คงกระพันชาตรี มิหวั่น
เกรงคมศาสตราวุธ แคล้วคลาด ชนะศัตรู มีบารมีผู้คนเกรงใจ 




ลำดับที่3.พระซุ้มกำแพงเพชร

































        3.พระซุ้มกอกำแพงเพชร.      
ผู้สร้างไม่ปรากฏแต่สันนิฐานว่า พระมหา
ธรรมราชาลิไท กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งกรุงสุโขทัย สร้างเมื่อครั้งครองเมืองกำแพงเพชร
    ประมาณ พ.ศ. 1900 พบพระซุ้ม ก. จำนวนมากเกลื่อนทุ่งเศรษฐี เนื่องจากในเขตทุ่งเศรษฐี
พบทุกกรุ แต่ไม่ได้อยู่เป็นกรุกลับแตกกระจายเกลื่อน สันนิฐานว่าเดิมน่าจะอยู่ในกรุ แต่ถูกชาว
บ้านรื้อค้นหาพระ หรือสมบัติมีค่า เห็นพระเนื้อดินไม่สนใจ เพราะมีจำนวนมากและพระสกุล
กำแพงเพชรที่เป็นเนื้อดินมีเป็น ร้อยๆ พิมพ์ นิยมทุกพิมพ์ แต่ที่นิยมที่สุดแพงที่สุด ก็คือ พระ
กำแพงซุ้ม ก.เป็นพระเนื้อดิน ละเอียดหนึกนุ่มผสมว่าน ปรากฏเม็ดและเอียดและแร่ว่านดอก
มะขาม


        เนื้อ พระเป็นสีเม็ดมะขาม เป็นส่วนมาก เป็นพระเนื้อดินดิบ หรือดินเผาแบบกองฟอนสุมพอ
ดินสุก พิมพ์ทรงคล้ายอักษร ก ไก่ ภายในเป็นพระพุทธรูปนูนต่ำปางสมาธิเกศตุ้มคล้ายศิลปะ
สุโขทัยหมวดตะกวน มีเส้นรัศมีรอบพระเศียร ประทับบนฐานบัวเล็บช้าง ผนังข้างซ้ายขวาเป็น
ซุ้มกนกเถาวัลย์ แลดูเด่นสง่าหนักแน่น อลังการ


    พุทธคุณ เน้นทางโภคทรัพย์ เป็นมหาอำนาจวาสนาบารมี
 เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวงไม่มีวันจน 



ลำดับที่4.พระผงสุพรรณ




































       4.พระผงสุพรรณ ผู้ สร้าง สันนิฐานว่าเป็นกษัตริย์ในราชวงค์ สุพรรณภูมิ น่าจะ
เป็นสมเด็จ พระบรมราชาธิราช ที่ 2 ประมาณ พ.ศ. 2091 ในจารึกแผ่นทองที่พบที่เจดีย์ใหญ่วัด
พระ ศรีรัตนมหาธาตุ ระบุว่าได้มีพระบรมราชโองการสั่งให้พระฤาษีพิมพิลาไลย์ เป็นประธาน
ในการสร้าง ต่อมาในปี 2456 ในสมัย รัชกาลที่ 6 มีคนลอบขุดกรุนี้ได้สมบัติไปไม่น้อยรวมถึง 
จารึกแผ่นทองอีกจำนวนมาก

      พระสุนทรบุรี (อี้ กรรณสูต) เจ้าเมืองสุพรรณบุรีขณะนั้นได้สั่งให้เปิดกรุอย่างเป็นทางการ
 และนำพระพิมพ์และจารึกแผ่นทองที่เหลือจำนานหนึ่งทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ
เกล้าเจ้าอยู่หัว

     พระ ผงสุพรรณเป็นพระเนื้อดินละเอียดผสมว่าน108 เนื้อหนึกนุ่มมีคราบน้ำว่านและรารัก
 พิมพ์ทรงเป็นศิลป์อู่ทอง องค์พระปางมารวิชัยประทับบนฐานเขียง พระก้มเล็กน้อยพระอุระนูน
เด่น แลดูเหมือนการบำเพ็ญสมาธิ เคร่งขรึม 


        พุทธคุณ เน้นด้านเมตตาบารมี การเป็นผู้นำน่าเกรงขาม

 การมีโชค ความมีเสน่ห์ ขจัดทุกข์ความสงบหนักแน่น



  ลำดับที่5.พระรอดลำพูน




























         5.พระรอดลำพูน ผู้สร้างเป็นพระราชธิดากษัตริย์แห่ง ?ลวปุระ?อาณาจักรลพบุรีที่ถูกอัญเชิญไป สร้างเมืองลำพูน คือพระนางจามเทวี ประมาณ พ.ศ. 1200 โดยพระนางได้มอบให้ฤาษีนารอดเป็นประธานในการสร้าง พระรอด กรุวัดมหาวัน พบที่กรุนี้กรุเดียวจำนวนไม่มาก สันนิฐานว่าน่าจะสร้างแล้วแจกทหารติดตัวไปรบ เสร็จศึกกลับมาจึงนำมาลงกรุ


    เนื้อพระเป็นเนื้อดินสะอาดปราศจากเม็ดกรวดมีเหล็กไหลเป็นส่วนผสมเนื้อหนึกแกร่ง พิมพ์ทรงขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย เป็นรูปพระปางมารวิชัยประทับบัลลังก์ทรงสูง พื้นหลังเป็นโพธิ์ลายตื้นๆ ลายละเอียดอ่อนช้อยมาก มองดูแล้วสง่างาม ร่มรื่นอุดมสมบูรณ์


     พุทธคุณ เน้นเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน อุดมด้วย
โภคทรัพย์ ร่ำรวยทรัพย์ แคล้วคลาด 
 



    หมายเหตุข้อมูลพระเครื่องในเว๊ปชมรมฯนี้เผยแพร่

เพื่อการศึกษาเท่านั้น




                พระเครื่องเบญจภาคีเนื้อผง 



             www.somdej1899.com  
  

1 ความคิดเห็น: